C-g ► Wrestling

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

Zack Ryder : Woo Woo Woo ... You know it !

ชื่อจริง Matthew Cardona
สูง
6 ฟุต 1 นิ้ว (185 เซนติเมตร)
หนัก 214 ปอนด์ (97 กิโลกรัม)
เกิด 14 พฤษภาคม ปี 1985

Finisher  Move
-
Rough Ryder (ท่าไม้ตายปัจจุบัน)
- Zack Attack
(ท่าไม้ตายเดิม)
-
Lifting inverted DDT
(ท่าไม้ตายเดิม)
ฉายา
The Long Island Loudmouth




The Major Brothers         
          แต่เดิมก่อนที่เขาจะมาใช้ชื่อว่า “Zack Ryder” นั้น เขาเปิดตัวทางโทรทัศน์ครั้งแรกในฐานะของ Brett Major โดยจับคู่กับ Bryan Major หรือ Curt Hawkins ในปัจจุบัน ในนามของ  “The Major Brothers” ดังที่น้าติงชอบแซวว่า “Major Cineplex” นั่นเอง โดยที่ทั้งคู่ได้เปิดตัว และขึ้นปล้ำแมชต์แรกใน ECW วันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2007 ด้วยการเอาชนะ Marcus Cor Von กับ Matt Striker 2 ในสมาชิกแห่ง The New Breed แต่ในสัปดาห์ถัดมา The Major Brothers ก็แพ้ให้กับ Elijah Burke กับ Marcus Cor Von 2 สมาชิกใน New Breed ในการ Rematch อีกทั้งทั้งคู่ยังแพ้ในแมชต์ Single ต่อๆ มา จึงเหมือนเป็นสัญญาณว่าน่าจะไปต่อได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไรนักสำหรับพี่น้องคู่นี้


Drafted To Smackdown          
          ในการ Draft ตัวนักมวยปล้ำประจำปี 2007 นั้น The Major Brothers ได้ย้ายจากค่าย ECW มาอยู่ Smackdown โดยทั้งคู่สามารถเอาชนะในแมชต์แรกของ Smackdown ได้ด้วยการเอาชนะนักมวยปล้ำที่มาหาค่ารถกลับบ้าน และในสัปดาห์ถัดมา The Majors Brother ก็เอาชนะคู่ของ Chavo Guerrero และ Jamie Noble ได้อีกเช่นกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มาแพ้ให้กับแชมป์ WWE Tag Team อย่าง Deuce (Sim Snuka) & Domino ในตอนนั้น และทั้งคู่ก็หายไปจากหน้าจอทีวี ... กระทั่งพวกเขากลับมาปล้ำใน Smackdown วันที่ 12 ตุลาคม ปี 2007 โดย Brett Major แพ้ในการปล้ำเดี่ยวกับ Drew McIntyre และ Bryan Major ก็แพ้ให้กับ Drew McIntyre ด้วยเช่นกันในสัปดาห์ต่อมา (ตอนนั้น Drew McIntyre เพิ่งเปิดตัว โดยมาในบทบาทของลูกศิษย์ Dave Taylor ซึ่ง Drew อยู่ได้ไม่นานนักก็ถูกส่งกลับไปฝึก และมาเปิดตัวอีกครั้งดังปัจจุบัน) อย่างไรก็ตาม Smackdown วันที่ 9 พฤศจิกายน 2007 The Major Brothers สามารถเอาชนะแมชต์การปล้ำ Battle Royal หาผู้ท้าชิงแชมป์ Tag Team แต่ทั้งคู่ยังคงไม่สามารถทำได้ โดยแพ้ให้กับ MVP และ Matt Hardy (ชิงได้จาก Deuce & Domino และตอนนั้น MVP เป็นแชมป์ United States ด้วย ซึ่งทั้งคู่ไม่ค่อยจะถูกกันนัก)


The Youngest WWE Tag Team Champion !
          ข้ามมาจนถึง
The Great American Bash 2008 Curt Hawkins และ Zack Ryder คว้าแชมป์ WWE Tag Team มาได้สำเร็จด้วยการเอาชนะคู่ของ John Morrison & The Miz (c), Jesse & Festus, Finlay & Hornswoggle ใน Fatal 4 Way Tag Team Match (ชนะด้วย Curt Hawkins จัดการกระชากขา Jesse ตกลงมาจาก Turnbuckle และกดนับ 3 ในเวลาต่อมา) โดยถือว่า Curt Hawkins & Zack Ryder เป็นแชมป์ WWE Tag Team ที่อายุน้องที่สุดในประวัติศาสตร์ของ WWE ! และต่อมาใน Summerslam 2008 หลังจากที่ Edge แพ้จากการกลับมาแก้แค้นของ Undertaker ใน Hell In A Cell Match และโดนเผานั้น เป็นอันสรุปว่าทั้ง Curt Hawkins และ Zack Ryder ได้แยกตัวออกจาก Edge แล้ว โดยในเวลาต่อมา Curt Hawkins และ Zack Ryder เสียแชมป์ WWE Tag Team ให้กับทีมของ Carlito & Primo ใน Smackdown วันที่ 26 กันยายน ปี 2008 ซึ่งเป็นการแพ้ในแมชต์ป้องกันแชมป์ครั้งแรกของเขาเลย (ไม่นับ House Show) และทั้งคู่ก็หายไป (อีกแล้ว) จนกลับมาเป็น Jobber ให้กับ Jeff Hardy และ Triple H ใน Tag Team Gauntlet Match อีกทั้งใน Battle Royal ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายเพื่อที่ผู้ชนะจะได้เข้าร่วมแมชต์การปล้ำ Elimination Chamber ฝั่ง Smackdown ในศึก No Way Out 2009 แต่ทั้งคู่ก็ไม่สามารถชนะแมชต์นี้ได้อยู่ดี (แหงแหละ) โดยการถูก The Great Khali โยนออก จากนั้นทั้งคู่ก็หายไป (อีกแล้ว และอีกแล้ว)


The Edge Head; Curt Hawkins & Zack Ryder          
         
ในศึก Armageddon ปี 2007 ระหว่างแมชต์การปล้ำ 3 เส้าชิงแชมป์ World Heavyweight Batista, Undertaker, Edge คู่เอกในคืนนั้น ทั้งคู่ดันปรากฏตัวออกมาจากใต้เวทีทำให้คู่ต่อสู้ทั้ง 2 คน คือ Batista และ Undertaker งงกันไปตามๆ กัน โดยเจ้า Major ทั้ง 2 คนโดนอัดไปตามระเบียบ แต่มันทำให้เป็นจังหวะที่ดีของ Edge เพราะ หลังจากที่ Undertaker ใช้ท่า Tombstone กับ Batista ... Edge เอาเก้าอี้ขึ้นมาฟาดใส่ Undertaker และกด Batista นับ 3 ฉวยโอกาสคว้าแชมป์ World Heavyweight สมัยที่ 2 ไปได้สำเร็จ ซึ่งใน Smackdown ตอนต่อมา Edge ก็ได้ประกาศว่าทั้ง 2 คนเป็นลูกน้อง โดย Brett เปลี่ยนชื่อเป็น Zack Ryder และ Bryan เปลี่ยนชื่อเป็น Curt Hawkins โดยตลอดระยะเวลาที่เป็นลูกน้องไม่ว่า Edge จะเปิดศึกกับ Batista, Undertaker หรือใครก็ตาม เจ้า Curt Hawkins และ Zack Ryder ก็จะเป็นตัวรับชะตากรรมทุกๆ ครั้งไป ซึ่ง Wrestlemania ครั้งแรกของทั้ง 2 คนคือ Wrestlemania 24 โดยปรากฏตัวออกมาก่อกวนแมชต์ระหว่าง Edge กับ Undertaker โดยมีเพียงหน้าที่ออกมาโดน Chokeslam ทับกันตาย 555 (สุดท้าย Undertaker ชนะ Edge ไปได้ด้วยท่า Hell’s Gate) และต่อมาทั้ง Edge, Curt Hawkins, Zack Ryder, Chavo Guerrero, Bam Neely ได้ร่วม co งานกันภายใต้ชื่อ “La Family” ซึ่งมีไม่ได้มีหน้าที่อะไรเป็นพิเศษนอกจากช่วยกันรุมกระทืบชาวบ้าน


Back To ECW – First ECW Championship Match – Closed Tommy Dreamer’s Career 
          จากการ Draft นักมวยปล้ำข้ามค่ายประจำปี 2009 Zack Ryder ได้ถูกย้ายจาก Smackdown กลับไป ECW อีกครั้ง ซึ่งเข้าสู่ช่วงยุคมิกกี้เมาส์ของ ECW แล้ว แต่อย่างไรก็เถอะ มันก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการหันมาปล้ำเดี่ยวของเขา เขาได้เปลี่ยนกิมมิคมาเป็น “ไอบ้า ใส่กางเกงสั้นข้างยาวข้าง” กล่าวคือเป็นลุคที่ดูกวนๆ โดยเขาแจ้งเกิดอีกครั้งใน ECW วันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2009 ด้วยการไปโผล่ด้านหลังเวทีพร้อมกับลุคใหม่ของเขากับคำพูดที่ติดปาก “Woo Woo Woo … You know it” อย่างไรก็ตาม Ryder ก็แพ้ให้กับ Finlay ใน Superstars วันที่ 7 พฤษภาคม ปี 2009 และต่อๆ มา Ryder ก็ยังไม่ค่อยมีบทบาทอะไรที่น่าสนใจมากนัก แต่ก็ถือเป็นก้าวที่ดีของ Ryder อยู่เหมือนกัน เพราะ มันทำให้ใครๆ หลายๆ คนได้รู้จักตัวเขา จนกระทั่งเขามีโอกาสได้ชิงแชมป์ ECW ครั้งแรกกับแชมป์ Christian ในตอนนั้นด้วยการเอาชนะ 10 Man Battle Royal Match การต่อสู้เป็นไปอย่างสนุก แต่ท้ายสุด Zack Ryder ก็ยังบุญวาสนาไม่ถึง ... ถัดมาใน ECW วันที่ 3 พฤศจิกายน Zack Ryder ขอหันไปควงสาว Rosa Mendes และในเวลาต่อมา Ryder เริ่มเปิดศึกกับตำนาน ECW Original อย่าง Tommy Dreamer โดยท้ายสุดใน ECW วันที่ 29 ธันวาคม ปี 2009 Zack Ryder เอาชนะ Dreamer ได้ และเป็นการปิดอาชีพตำนาน ECW Tommy Dreamer คนนี้ลงจนได้ ...


Drafted To Raw                   
          หลังจากได้หมดยุค ECW และยุบรายการลงอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 ทั้ง Zack Ryder และ Rosa Mendes ต่างก็ได้ย้ายมา RAW โดยแมชต์แรกหลังจากเขาย้ายไป RAW เขาสามารถเอาชนะ Primo ใน Superstars วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2010 ไปได้ และต่อมา Zack Ryder ก็มีโอกาสได้คัดเลือกเพื่อเข้าสู่ Money In The Back Match ใน Wrestlemania 26 แต่ก็ยังคงแพ้ให้กับพาวเวอร์เรนเจอร์อย่าง MVP ชวด Wrestlemania 26 ไป เขาจึงมีโอกาสได้ร่วมเพียงแค่เป็น 26 Man Battle Royal Match เปิดรายการ Wrestlemania 26 เพียงนั้น (ผู้ชนะในแมชต์นั้นคือ Yoshi Tastu โดย Ryder เองก็อยู่ถึง 2 คนสุดท้าย) ต่อมา Rosa Mendes ก็ถูกย้ายไป Smackdown หลังจากการ Draft ประจำปี 2010 ทำให้ Zack Ryder ต้องการหาสาวควงใหม่ อิอิ … Ryder จึงตามจีบไปทั้ง Gail Kim และยัยแจ๋ว Alicia Fox โดยถึงกับพาสาวมานั่งดูแมชต์การปล้ำของเขาข้างเวทีในศึก Raw วันที่ 10 พฤษภาคม ปี 2010 แต่เขาก็แพ้ให้กับ Evan Bourne ไป และสัปดาห์ถัดมาใน Tag Team ผสมระหว่าง Zack Ryder & Alicia Fox กับ Evan Bourne & Gail Kim ซึ่งฝั่ง Ryder แพ้ไปอีกเช่นเคย แต่ Zack Ryder ก็สามารถเอาชนะ Evan Bourne ได้แค่ในรายเล็ก Superstars วันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2010 เท่านั้น แต่แล้ว Ryder ก็ถูก Alicia Fox หักหลังใน RAW สัปดาห์ต่อมา แต่เขาก็คงไม่แคร์นัก 555 เพราะ ช่วงโอกาสขาขึ้นของเขาก็มาถึงอีกครั้งเมื่อใน RAW Viewer Choice วันที่ 7 มิถุนายน ปี 2010 Zack Ryder ได้รับการโหวตจากแฟนๆ ในการจับคู่กับ The Miz เพื่อเจอกับคู่ของ John Morrison และ R-Truth ซึ่ง Ryder & Miz สามารถเอาชนะไปได้ด้วย ! … ในสัปดาห์ต่อมาโอกาสทองของเขาก็มาถึงเมื่อเขาได้เข้าร่วมในแมชต์ Fatal 4 Way เพื่อชิงแชมป์ US แต่ยังไง๊ ยังไงก็บุญวาสนาไม่ถึงแพ้ไปอีกเช่นเคย และในเดือนต่อมาในเดือนสิงหาคม ขณะที่ Sheamus แชมป์ WWE ในตอนนั้นสามารถเลือกผู้ท้าชิงใครก็ได้ 1 คน ปรากฏว่า Sheamus เลือก Zack Ryder แต่ผลคือ Ryder โดนถีบหน้าแพ้ไปในเวลาเพียงแค่ 11 วินาทีเท่านั้น


Become Pro NXT Season 2          
          Zack Ryder ได้เป็น Pro ใน NXT Season 2 ให้กับ Titus O’Neil โดยหลังจากปล้ำแมชต์แรกใน NXT ก็แพ้ให้กับคู่ของ Pro John Morrison และ Eli Cottonwood อย่างไรก็ตาม Titus O’Neil นั้นถูกคัดออกเป็นคนแรกของ NXT Season 2 นี้ใน NXT วันที่ 27 มิถุนายน ปี 2010 และต่อมาใน NXT Zack Ryder ก็แพ้ให้กับ Rookie Percy Watson ด้วยซะงั้น !


Team with Primo                   
          ปัจจุบันทั้ง Zack Ryder และ Primo ได้ประกาศเป็นคู่ Tag Team กันใน Superstars วันที่ 27 มกราคม ปี 2011 (น่าจะใช้ชื่อว่า “DZP” (ดีซีพี) มั้งนะครับ) แต่ก็ยังไม่ค่อยมีบทบาทอะไรที่น่าสนใจ และเป็นชิ้นเป็นอัน โดยได้เปิดศึกกับทีมของ DH Smith และ Yoshi Tastu ต่อไป อ้อ แล้วที่สำคัญครับ หลังจาก Ryder ไม่ค่อยมีบทเขาจึงหายบ้าเลิกใส่กางเกงสั้นข้างยาวข้างครับ (เกี่ยวมั้ย ?)


สรุปผลงานแชมป์

- WWE Tag Team Champion 1 สมัย จับคู่กับ Curt Hawkins
ชนะ John Morrison & The Miz (c), Finlay & Hornswoggle, Jesse & Festus
ในแมชต์ Fatal 4 Way Tag Team Match ศึก The Great American Bash 2008

รางวัลอื่นๆ

- รางวัล Slammy Awards ประโยคติดหู/กวนประสาท จากประโยค “Woo Woo Woo … You know it” ประจำปี 2010


... Zack Ryder คือนักมวยปล้ำที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่ทว่า WWE ไม่ค่อยได้ดันเขาเท่าที่ควรจะเป็นเลย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเขาครับ รวมถึง Curt Hawkins ด้วย หวังว่าเราจะได้เห็นสองคนนี้เป็น Superstar ดังในอนาคตครับ ...

Plus+ Curt Hawkins                   
          ในส่วนนี้ผมจะขอทิ้งท้ายแถมพูดถึงอดีตคู่ Tag Team ของ Zack Ryder หรือ Curt Hawkins นั่นเอง โดยจะพูดถึงหลังจากที่เขาได้แยกจาก Zack Ryder ครับ

ชื่อจริง
Brian Myers

สูง
6 ฟุต 1 นิ้ว (185 เซนติเมตร)
หนัก 236 ปอนด์ (107 กิโลกรัม)
เกิด 20 เมษายน ปี 1985

Finisher  Move
-
Heat-Seeking Elbow / Diving Elbow Drop (ท่าไม้ตายปัจจุบัน)
- Hangman’s Facebuster / เป็นท่าจับล็อคจะใช้ Neckbreaker
แต่บิดไปด้านหน้า หน้าของคู่ต่อสู้จะฟาดพื้น (ท่าไม้ตายปัจจุบัน)
-
Lifting DDT (ท่าไม้ตายเดิม)
          หลังจากที่ Hawkins และ Ryder ได้แยกออกไปปล้ำเดี่ยวกันคนละทาง ในขณะที่ Ryder ได้เข้าแบรนด์ ECW และมีฐานแฟนๆ มากพอสมควร ทางด้าน Curt Hawkins เพิ่งจะได้กลับมาเข้ามาฝั่ง Smackdown เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2010 โดยเขากลับมาเปิดตัวพร้อมกับคู่ Tag Team คนใหม่อย่าง Vance Archer ทั้งคู่เปิดตัวมาในมาดของ Tag Team เด็กแว้นครั้งแรกใน Superstars วันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2010 ด้วยการเอาชนะนักมวยปล้ำผู้มาหาค่ารถกลับบ้าน หลังจากนั้นเขาได้เซ็นสัญญาเพื่อปล้ำในรายการ Smackdown 30 วัน ทั้ง Hawkins และ Archer มาถึงวันแรกก็มาหาเรื่อง MVP กับ Christian ในทันทีตั้งแต่ Smackdown วันที่ 4 มิถุนายน และ 11 มิถุนายน ปี 2010 ซึ่ง Hawkins และ Archer สามารถเอาชนะ MVP และ Christian ใน Smackdown วันที่ 18 มิถุนายน ปี 2010 สัปดาห์ต่อมาอีกด้วย !  ต่อมา Curt Hawkins และ Vance Archer ได้เรียกกลุ่มของตนเองว่า “The Gatecrashers” และใน Smackdown วันที่ 4 มิถุนายน ปี 2010 The Gatecrashers เองก็ได้เข้าร่วม Battle Royal หาผู้ท้าชิงที่จะไปชิงแชมป์ World Heavyweight แทนที่ Undertaker ใน Fatal 4 Way ศึก Fatal 4 Way 2010 โดย Hawkins อยู่ถึงช่วง 4 คนสุดท้าย แต่ก็ไม่สามารถชนะได้ (ผู้ชนะแมชต์นั้นคือ Rey Mysterio) และเมื่อสัญญา 30 วันหมดลง Hawkins ก็ได้ต่อสัญญาระยะยาวตาม Storyline และต่อมาใน Superstars วันที่ 7 ตุลาคม ปี 2010 เกิดแมชต์ระหว่าง Vance Archer เจอกับ Chris Masters และเป็น Curt Hawkins ที่หักหลัง Archer เป็นอันแตกทีม The Gatecrashers ไปจนได้ แต่ท้ายสุดแล้วทั้งคู่ยังไม่ทันได้สะสางอะไรกัน Vance Archer ก็ถูก WWE ไล่ออกในเวลาต่อมา หลังจากนั้น Curt Hawkins ก็มาเปิดศึกกับทางด้าน Trent Barreta (ซึ่งคู่ของเขา Caylen Croft ก็เพิ่งถูกไล่ออกไปเช่นเดียวกัน) โดยแมชต์ของทั้งคู่เป็นไปอย่างสนุกมาก ทั้งคู่เจอกัน 3 ครั้งใน Superstars ครั้งแรก Barreta ชนะ ครั้งที่สอง Hawkins ชนะ ครั้งที่สาม Barreta ชนะ จากนั้นต่อมากระทั่งในปัจจุบัน Curt Hawkins ก็ยังคงปล้ำใน Superstars และส่วนใหญ่จะเป็น Jobber ให้กับ Chris Masters กระทืบเสมอๆ รวมถึงล่าสุด Hawkins ก็เพิ่งแพ้ให้ Tyler Reks อีกด้วย

         
       

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

Dolph Ziggler : I Am Perfection

ชื่อจริง Nicholas Theodore "Nic" Nemeth
สูง 6 ฟุต (183 เซนติเมตร)
หนัก 223 ปอนด์ (101 กิโลกรัม)
เกิด 27 กรกฏาคม ปี 1980, Cleveland, Ohio
Finisher Move
- Zig Zag
- Sleeper Hold

Dolph Ziggler’s WWE Debut          Doplh Ziggler เปิดตัวทางโทรทัศน์ครั้งแรกภายใต้แบรนด์ Raw โดยเขามาเป็นแคตดี้ให้กับ Kerwin White (Chavo Guerrero) ใช้ชื่อว่า “Nick Nemeth” และเขาขึ้นปล้ำครั้งแรกใน Sunday Night Heat (รายการเล็กฝั่ง Raw ในสมัยนั้น) โดยจับคู่กับ Kerwin White เจอกับ Shelton Benjamin และ Matt Striker ซึ่งสามารถเอาชนะไปได้ แต่ต่อมาไม่นาน Eddie Guerrero ได้เสียชีวิตลง Chavo Guerrero จึงละทิ้งกิมมิค Kerwin White กลับมาเป็น Chavo คนเดิม ส่งผลให้ปลาบู่ของเราไม่มีบท และถูกส่งกลับไปฝึก ...

The Spirit Squad World Tag Team Champion
          
Nick Nemeth หรือ Dolph Ziggler กลับมา WWE อีกครั้ง โดยมาในมาดของกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ใช้ชื่อว่า “The Spirit Squad” ตัว Dolph Ziggler เองใช้ชื่อว่า “Nicky” ซึ่งกลุ่มนี้ปรากฏตัวครั้งแรกใน RAW วันที่ 23 มกราคม ปี 2006 โดยการมาก่อกวนแมชต์การปล้ำจนทำให้ Jonathan Coachman เอาชนะ Jerry Lawler ในแมชต์รอบคัดเลือกเข้าสู้ Royal Rumble 2006 จากนั้นทั้งกลุ่มนี้ได้ช่วย Mr.McMahon ในการช่วยรุม Shawn Michaels หลายครั้ง และใน Wrestlemania 22 แมชต์ No Holds Barred ระหว่าง Mr. McMahon และ Shawn Michaels กลุ่ม Spirit Squad ได้มามีส่วนยุ่งเกี่ยวกับแมชต์โดยการช่วย Mr. McMahon ในการพยายามที่จะล้ม Shawn ให้จนได้ แต่สุดท้าย Shawn ก็ยังคงเอาชนะ Mr. McMahon ได้อยู่ดี และต่อมาใน Raw วันที่ 3 เมษายน ปี 2006 Kenny, Mikey 2 สมาชิกใน 5 ของ Spirit Squad สามารถเอาชนะ Big Show และ Kane คว้าแชมป์ World Tag Team ไปได้จากการช่วยเหลือของผองเพื่อนเช่นเคย จากชัยชนะครั้งนี้เขาเลยถือกันว่าทั้ง 5 คนเป็นแชมป์ World Tag Team ทั้งหมดทุกคน ถัดมาในเดือนพฤษภาคม ปี 2006 หลังจากที่เรื่องราวระหว่าง Mr. McMahon และ Shawn Michaels ยังไม่จบลง Mr.McMahon ยังใช้ตัว Spirit Squad ในการเข้ามาช่วยรุมกระทืบ Shawn Michaels เช่นเดิม โดยในเวลาต่อมา Mr.McMahon ได้นำตัว Triple H มากะที่ให้ Triple H ใช้ค้อนปอนด์เล่นงาน Shawn Michaels แต่ทว่า Triple H กลับหักหลังMr.McMahon ด้วยการหันกลับไปเล่นงานกลุ่ม Spirit Squad ซะเอง เลยเป็นที่มาของการ Comeback ของ DX นั่นเอง หลังจากนั้น DX ก็เล่นตลกแกล้งทั้ง Mr.McMahon และ Spirit Squad ทุกๆ สัปดาห์ ทั้งเทอุจจาระใส่ ระเบิดรถเล่น พ่นสเปร์ตึก ปรับเสียงไมค์โครโฟนเล่นในขณะที่ Mr.McMahon กำลังพูดออกไมค์ Mr.McMahon จึงจัดการสั่งให้มีแมชต์การปล้ำ 5 on 2 Handicap Match ระหว่าง DX และ Spirit Squad ในศึก Vengeance 2006 โดย Spirit Squad ได้แพ้ให้กับ DX ไป รวมถึงใน Saturday Night’s Main Event ใน Elimination 5 on 2 Handicap Match DX ก็จัดการกวาดไปได้อีกเช่นกัน ต่อมา Spirit Squad จึงมีบทบาทในแง่ของ Tag Team จริงๆ กันเสียที โดยพวกเขาได้ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จกับหลายคู่ด้วยกัน  ทั้ง Hacksaw Jim Duggan & Eugene, Charlie Hass & Viscera, Snitsky & Val Venis และ The Highlanders ใน Unforgiven 2006 ต่อมา Spirit Squad เริ่มหันไปมีเรื่องกับ Ric Flair โดยในศึก Cyber Sunday 2006 แฟนมวยปล้ำได้โหวตให้คู่ของ Ric Flair & Roddy Piper ได้ชิงแชมป์ World Tag Team ของ Spirit Squad และ Ric Flair & Roddy Piper ก็สามารถเอาชนะ และคว้าแชมป์ Tag Team ได้สำเร็จ ทำให้ Spirit Squad ขอท้า 5-5 Elimination Tag Team Match ใน Survivor Series 2006 กับกลุ่มคนแก่ และเป็น Spirit Squad ที่เอาชนะไปได้ในที่สุด ต่อมาใน Raw วันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 2006 แมชต์ 5 on 3 Handicap Match ระหว่าง Spirit Squad และ DX, Ric Flair โดยเป็นฝั่งของ DX, Ric Flair ที่จัดการส่งกลับ Spirit Squad กระทั่งหายไปทั้งกลุ่ม และถูกส่งกลับไปฝึกอีกครั้ง ...


My Name is “Dolph Ziggler”         
         
Dolph Ziggler ได้กลับมา WWE อีกครั้ง โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น Dolph Ziggler แล้ว ซึ่งเขามาในมาดใหม่ เป็นไอ้บ้าชอบแนะนำตัว และฉายาของเค้าคือ ไอ้หน้าปลาบู่ชนเขื่อนนั่นเอง 555 ใน RAW วันที่ 17 พฤศจิกายน ปี 2008 หลังเวที Dolph แนะนำตัวกับทั้ง Shawn Michaels และ Rey Mysterio ได้รู้จักด้วยคำพูด “สวัสดีกร๊าบ ผมดอฟ ซิกเลอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก” และเขาขึ้นปล้ำแมชต์แรกหลังจากกลับมาโดยเจอกับ The Animal “Batista” ใน Raw วันที่ 1 ธันวาคม ปี 2008 และก็แพ้ไปในที่สุด แต่ในแมชต์ Ziggler ก็ได้สู้กับ Batista อย่างเต็มที่เช่นกัน สัปดาห์ถัดๆ มา Ziggler สามารถเอาชนะ Count Out กับ R-Trurh และชนะ Charlie Hass ด้วยการจับกดต่อมา


Drafted To Smackdown – VS. The Great Khali         
         จากการดราฟต์นักมวยปล้ำประจำปี 2009 Dolph Ziggler ถูกย้ายจาก Raw เข้าสู่ Smackdown (ซึ่งบทลุ่มๆ ดอนๆ อย่างนี้ ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าวันนี้เขาจะทำได้ดีถึงขนาดนี้) โดยเขาขึ้นปล้ำแมชต์แรกใน Smackdown วันที่ 17 เมษายน ปี 2009 ด้วยการเอาชนะแชมป์ US อย่าง MVP ในตอนนั้น (non-title) ! ข้ามมาจนถึง Smackdown วันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2009 เขามีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์ US กับ MVP ซึ่งเขาเคยเอาชนะมาได้ แต่เขาก็ยังคงไปไม่ถึงฝั่งฝัน เขายังคงแพ้ให้กับ MVP ในแมชต์ชิงแชมป์นั้น ต่อมาปลาบู่ชนเขื่อนมีแมชต์ต้องเจอกับยักษ์ใหญ่อย่าง “The Great Khali” โดยเป็น Ziggler ที่แพ้ Disqualification หลังจากเอาเก้าอี้ฟาดหลัง Khali จากนั้น Khali จึงพยายามที่จะตามมาล้างแค้น Ziggler ซึ่งต่อมาทั้งคู่มีแมชต์เจอกันถึง 2 สัปดาห์ติด และเป็น Ziggler ที่เอาชนะ Khali ได้ทั้ง 2 แมชต์ด้วยการ Count Out Khali และ Disqualification หลังจาก Khali เอาเก้าอี้ฟาดคืนระหว่างแมชต์การปล้ำ ใน The Bash 2009 จึงเกิดแมชต์ไม่มีกฎกติการะหว่าง The Great Khali และ Dolph Ziggler โดยระหว่างแมชต์ Kane ออกมาพร้อม Chair Shot เต็มกระโหลก Great Khali ทำให้ Dolph Ziggler ฉวยโอกาสเข้ามากด และชนะไปแบบรอดตาย



Chasing The Intercontinental Champion – Storyline with Vickie Guerrero
          ต่อมา Dolph Ziggler เริ่มมีบทบาทกับทางด้าน Maria โดยในทีแรกมีบทจีบกัน (ภายหลัง Maria ถูกไล่ออก แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ยังไม่ได้มีบทที่เป็นชิ้นเป็นอันเช่นกัน ณ ตอนนั้น) และเป็นช่วงที่เขาตามล่าแชมป์ Intercontinental แต่เขาก็พลาดทุกครั้งไป โดยทั้ง Night Of Champions 2009, Summerslam 2009 ก็แพ้ให้กับ Rey Mysterio ทั้งสิ้น จากนั้น
ศึก SmackDown วันที่ 4 กันยายน 2009 John Morrison กลับเอาชนะ Rey คว้าแชมป์ Intercontinental สมัยที่ 3 ไปได้ในแมชต์เดียว จากนั้นใน Hell In A Cell 2009 Dolph Ziggler มีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์ Intercontinental อีกครั้งโดยเจอกับ John Morrison แต่ก็เป็น Ziggler ที่แพ้ไปอีก ทำให้ใครๆ หลายๆ คนในตอนนั้นพูดกันว่า “ไอ้นี่มันซวยจริงๆ เมื่อไรมันจะได้แชมป์ Intercontinental ซักที” แต่ศึกใหญ่ต่อมาคือ Bragging Right 2009 นั่นเอง Ziggler จึงพักรบชั่วคราว โดยในตอนแรกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม Smackdown ด้วย แต่ทว่ามีคำสั่งจาก GM ให้เกิดแมชต์ระหว่าง R-Truth, Matt Hardy, Finlay, The Hart Dynasty VS. Dolph Ziggler, Eric Escobar, Cryme Tyme, Drew McIntyre โดยเดิมไว้ว่าถ้าหากฝั่ง Ziggler แพ้ในแมชต์นี้จะเปลี่ยนทีม Smackdown ใหม่ยกเซ็ท และก็แพ้ไปจริงๆ ด้วยทำให้ Ziggler อด ! ถัดมาจนถึง Smackdown วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 2010 Ziggler เอาชนะแมชต์รอบคัดเลือกเข้าสู่ Money In The Bank ใน Wrestlemania 26 ด้วยการเอาชนะ Triple Threat Match กับ John Morrison, R-Truth แต่ก็ยังไม่สำเร็จ (ผู้ชนะครั้งนั้นคือ Jack Swagger) ต่อมาใน Smackdown ช่วงประมาณเดือนมิถุนายน Dolph Ziggler เริ่มมีบทเป็นแฟนกับป้า Vickie Guerrero โดยใน Smackdown วันที่ 9 กรกฏาคม ปี 2010 Dolph Ziggler สามารถเอาชนะ MVP, Chavo Guerrero ในรอบคัดเลือกสู่ PPV Money In The Bank 2010 ฝั่ง Smackdown แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ (อีกแล้ว ผู้ชนะในครั้งนั้นคือ Kane)

Get The Intercontinental Title !Defended The Intercontinental ChampionBecome Pro NXT 4
         
กระทั่งใน Smackdown วันที่ 7 สิงหาคม ปี 2010 Dolph Ziggler สามารถเอาชนะ Kofi Kingston คว้าแชมป์ Intercontinental มาได้สำเร็จหลังจากพยายาม และรอคอยมาอย่างยาวนาน ด้วยการหนุนหลังจาก Vickie Guerrero และใน Summerslam 2009 Rematch ระหว่าง Ziggler กับ Kingston ก็จบลงอย่างไม่มีคำตัดสินเนื่องจากกลุ่ม NEXUS ขึ้นมาก่อกวนแมชต์การปล้ำ อย่างไรก็ตาม Ziggler ก็ยังคงป้องกันแชมป์ได้สำเร็จทั้ง Night Of Champions 2010 เอาชนะ Kofi Kingston ต่อมาใน Bragging Rights 2010 ได้มีการปะทะข้ามค่ายระหว่างแชมป์ Intercontinental จาก Smackdown Dolph Ziggler VS. แชมป์ US Daniel Bryan ซึ่งแมชต์นี้ Bryan เอาชนะไปได้ แต่แมชต์นี้ถือเป็น Match Of The Year 2010 อันดับที่ 2 หลังจากที่ทั้งคู่ได้โชว์ฟอร์มอย่างสุดยอด ต่อมา Ziggler เองก็สามารถเอาชนะป้องกันแชมป์ได้อีกเช่นกัน Survivor Series 2010 เอาชนะ Kaval และ TLC 2010 เอาชนะ Jack Swagger และ Kofi Kingston ใน Triple Threat Ladder Match มาแบบฟลุ๊คๆ (Ziggler ชนะหลังจากที่ Kofi กับ Swagger ต่อยกันบนยอดบันได และกระตุกเข็มขัดตกลงมาที่พื้น Ziggler เห็นดังนั้นจึงคลานเยี่ยงสุนัขไปเก็บเข็มขัดเอาชนะเฉย) ซึ่งในระหว่างนั้นใน Dolph Ziggler ก็ได้เป็น Pro ให้กับ Jacob Novak และใน NXT วันที่ 4 มกราคม ปี 2011 Dolph Ziggler เอาชนะ Battal Royal ได้สิทธิ์การเปลี่ยน Rookie ของตนเองได้ ปรากฏว่า Ziggler เปลี่ยน Rookie จาก Novak มาเป็น Byron Saxton ซึ่งเขาแม่นมาก เพราะ Jacob Novak ที่ตนเองเพิ่งเปลี่ยนออกไปนั้นได้ถูกคัดออกในคืนนั้นเลย !

The World Heavyweight Champion !         
         
Smackdown วันที่ 4 มกราคม ปี 2011 Kofi Kingston มาทวงเข็มขัดจาก Ziggler คืนไปจนได้ แต่ต่อมากลับทำให้เขาได้เลื่อนขั้นไปสู่ลีกแชมป์โลก ! ในคืนนั้นเองเขาสามารถเอาชนะ Big Show, Cody Rhodes, Drew McIntyre ใน Fatal 4 Way Match (แต่เดิมเป็น Triple Threat Match แต่ Vickie ออกมาใช้อำนาจให้ Ziggler เข้าร่วมแมชต์ด้วย Ziggler ชนะด้วยการหลอก Rhodes ให้ไปช่วยอัด Big Show แต่เมื่อ Rhodes หันหลัง Dolph Ziggler จัดการ Zig Zag กดนับสาม) ได้ไปชิงแชมป์ World Heavyweight กับ Edge ใน Royal Rumble 2011 จนได้ทั้งยังสั่ง Edge แบนห้ามใช้ท่า Spear อีกด้วย ถ้าใช้จะเสียแชมป์ทันที แต่ Edge ก็ยังคงสามารถเอาชนะ Ziggler ไปได้ด้วยท่าไม้ตายของเพื่อนรักอย่าง Killswitch ส่วนทางด้าน NXT นั้น Rookie Byron Saxton ของเขาก็ถูกคัดออกไปด้วย เรียกได้ว่าซวยไปหมด 555 และต่อมาใน Smackdown วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2011 Edge ฝ่าฝืนใช้ท่า Spear เอาชนะ Dolph Ziggler ได้ในการ Rematch เป็นเหตุให้ใน Raw วันจันทร์ต่อมา Vickie ออกมาประกาศพร้อมทั้งสั่งยึดแชมป์ Edge ฐานที่ฝ่าฝืนใช้ท่า Spear ที่ถูกแบนไปแล้ว โดยจะมีการมอบแชมป์ World Heavyweight ให้กับ Dolph Ziggler อย่างเป็นทางการใน Smackdown วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2011 ซึ่งในคืนนั้น Vickie ได้ออกมามอบแชมป์ให้กับแฟนตนเองทำให้ Dolph Ziggler เป็นแชมป์ World Heavyweight สมัยแรกได้สำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจสุดๆ ! อีกทั้ง Vickie ยังไล่ Edge ออกจาก Smackdown อีกด้วยโดย Vickie อ้างว่า Edge เป็นคนลอบทำร้าย Teddy Long ในช่วงที่ผ่านมา แต่ทว่า Teddy Long ตัวเป็นๆ ดันกลับมาซะอย่างนั้น และได้ประกาศว่า “จริงๆ พวกแกน่ะแหละที่ทำค่อย” และยอมให้มีการมอบแชมป์ครั้งนี้ แต่ Ziggler ก็ต้องมีแมชตืป้องกันแชมป์โลกกับ Edge ต่อไปนี้เช่นกัน และเป็น Edge ที่สามารถคว้าแชมป์ World Heavyweight สมัยที่ 11 กลับไปได้ โดยที่ Ziggler ครองแชมป์ไปเพียงแค่ 11 นาทีกว่าๆ เท่านั้น และต่อมา Teddy Long จัดการไล่ทั้ง Ziggler (ไม่ได้เข้าร่วม Elimination Chamber Match ในศึก Elimination Chamber 2011), Vickie ออกจาก Smackdown (ตามบทในเวลาต่อมา)

Back To Raw

 
         Dolph Ziggler กลับมาอีกครั้งใน Raw วันที่ 7 มีนาคม ปี 2011 โดยการเอาชนะ John Morrison โดย Vickie ก็ย้ายตามมาในภายหลัง หลังจากที่เอาชนะ Trish Stratus ไปได้ ปัจจุบัน Ziggler มีโปรแกรมใน Wrestlemania 26 ในแมชต์แท๊คทีมผสม 6 คนระหว่าง Dolph Ziggler & Laycool (w/Vickie Guerrero) VS. John Morrison & Trish Stratus & Snooki ติดตามชมกันต่อไปครับ ...


สรุปผลงานแชมป์ใน WWE


- World Heavyweight Champion 1 สมัย
ได้รับการแต่งตั้งจาก Vickie Guerrero ในศึก Smackdown วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี 2011


- WWE Intercontinental Champion 1 สมัย
ชนะ Kofi Kingston ในศึก Smackdown วันที่ 7 สิงหาคม ปี 2011


- World Tag Team Champion 1 สมัย จับคู่กับ Spirit Squad
ชนะ Big Show & Kane ในศึก Raw วันที่ 3 เมษายน ปี 2006


- Triple Crown Champion

... จากนักมวยปล้ำตัวตลกธรรมดาๆ ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปีกว่าๆ โดยใช้ฝีมือ และการพัฒนาตนเองจนก้าวมาถึงระดับแชมป์โลกได้ เป็นไงล่ะ Perfection มั้ย ! ...