C-g ► Wrestling

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

John Morrison : The Prince of Parkour

ชื่อจริง John Randall Hennigan
สูง 6 ฟุต 1 นิ้ว (185 เซนติเมตร)
หนัก 224 ปอนด์ (102 กิโลกรัม)
เกิด 3 ตุลาคม ปี 1979, Los Angeles, California
Finisher Move
- Starship Pain (ท่าไม้ตายปัจจุบัน)
- Running Knee (ท่าไม้ตายเดิม)
- Moonlight Drive (ท่าไม้ตายเดิม)
ฉายา
- The Guru of Greatness
- The Shaman of Sexy


Eric Bischoff Assistant
          1 มีนาคม ปี 2004 Johnny Nitro เปิดตัวครั้งแรกใน Raw ในฐานะ Guard ของ Eric Bischoff แต่สืบเนื่องจาก Eugene ซึ่งเป็นญาติของ Bischoff (ในบท) ที่เป็นโรคออทิสติกดันมาปล้ำมวยปล้ำ Bischoff จึงตั้งใจที่จะเล่นงาน Eugene เพื่อให้เข็ดมวยปล้ำ แต่ทว่าสุดท้าย Nitro ก็ไปแพ้ Eugene โดยที่ก่อนหน้านี้ Bischoff บอกถ้า Nitro แพ้จะถูกไล่ออก Nitro จึงกลับไป OVW
*ขอขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจากท่าน
Webmaster

MNM – Three Times WWE Tag Team Champion – The End of “MNM”
          Johnny Nitro ได้กลับมาอีกครั้งโดยมาร่วมทีมกับ Joey Mercury และมี Melina เป็นผู้จัดการทีมในนามของ “MNM” ภายใต้แบรนด์ Smackdown เปิดตัวมาครั้งแรกด้วยการออกมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Carlito’s Carbana และต่อมาแมชต์แรกของเขาใน Smackdown ทางทีม MNM สามารถเอาชนะคู่ของ Rey Mysterio กับ Eddie Guerrero คว้าแชมป์ WWE Tag Team มาได้ในทันที และพวกเขาก็สามารถป้องกันแชมป์ได้ 3 เดือน ด้วยการเอาชนะทีมของ Rey Mysterio กับ Eddie Guerrero ในรีแมชต์ และคู่ของ Hardcore Holly กับ Charlie Hass แต่ท้ายที่สุดก็มาเสียเข็มขัดให้กับ The Legion of Doom (LOD ในตอนนั้นเป็น The Animal กับ John Heidenreich) ในศึก The Great American Bash 2005 แต่ทาง MNM ก็คงฟอร์มร้อนแรงเหลือเกิน พวกเขาสามารถทวงแชมป์กลับมาได้อีกครั้งในการปล้ำแบบ Fatal-4-Way Tag Team Match เอาชนะ The Mexicools (Juventud, Psicosis, Super Crazy) , William Regal & Paul Burchill , LOD และครองแชมป์กระทั่งมาเสียแชมป์ให้กับคู่ของ Batista กับ  Rey Mysterio (ตอนนั้น Batista เป็นแชมป์ World Heavyweight ด้วย) ใน SmackDown เดือนธันวาคม ปี 2005 แต่แล้ว MNM ก็คว้าแชมป์ WWE Tag Team จาก Batista กับ Rey Mysterio กลับคืนมาเป็นสมัยที่ 3 ได้อีกในสัปดาห์ต่อมาด้วยการช่วยเหลือของ Mark Henry ต่อมาทั้งคู่เริ่มมาเปิดศึกกับทางด้าน Paul London กับ Brain Kendrick เป็นเวลากว่า 3 เดือน ทาง Paul London กับ Brain Kendrick ก็สามารถเอาชนะ MNM ใน non-title Match มาได้ตลอดเกือบทุกแมชต์ และแล้ว Paul London กับ Brain Kendrick ก็คว้าแชมป์ WWE Tag Team จาก MNM ได้สำเร็จจริงๆ ใน Judgment Day 2006 ทางด้าน MNM เลยทะเลาะกัน และเป็นทาง Johnny Nitro กับ Melina ที่จัดการเล่นงาน Mercury เป็นอันว่าจบทีม MNM ในที่สุด และใน Smackdown ตอนต่อมา Teddy Long GM ของ Smackdown เลยจัดการไล่ทั้ง Johnny Nitro และ Melina ออกจาก Smackdown ไปทั้งคู่


To Raw - Become The Intercontinental Champion
          เป็นที่แน่นอนครับ โดนไล่ออกจาก Smackdown ก็มา Raw โดยย้ายมาแบบแพ๊คคู่มาทั้ง John Morrison และ Melina ซึ่งทั้งในบทและความจริงก็เป็นแฟนกัน และในวันที่ Nitro ย้ายมาที่ Raw ก็มาแพ้ WWE Champion John Cena ในทันที แต่ต่อมา Nitro ก็คว้าแชมป์ Intercontinental ได้สำเร็จในศึก Vengeance 2006 ด้วยการเอาชนะ Carlito กับ Shelton Benjamin ในแมชต์ Triple Threat แต่แล้ว หลังจากที่ Nitro ครองแชมป์ไว้ได้ 4 เดือน ก็มาเสียแชมป์ Intercontinental ให้กับนักมวยปล้ำขวัญใจหลายๆ คนอย่าง Jeff Hardy ในศึก Raw วันที่ 2 ตุลาคม 2006 ซึ่งในตอนนั้น Jeff Hardy เพิ่งกลับมาใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตาม Nitro ก็ทวงแชมป์คืนจาก Jeff Hardy ได้อีกในศึก Raw วันที่ 16 พฤศจิกายน 2006 แต่สุดท้ายและท้ายสุด Nitro ก็มาเสียเข็มขัดคืนให้กับ Jeff Hardy อีกครั้งในสัปดาห์ต่อมาอยู่ดี


MNM Reunion
          ถึงจะเคยทะเลาะกันมา แต่อย่างว่า มวยปล้ำมันไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวรการ Reunion ของ Joey Mercury กับ Johnny Nitro ในนามของ MNM นั้นมาจากการที่ทั้งคู่ต้องการไปท้าเจอกับ The Hardys (Matt & Jeff Hardy) ในศึก December To Dismember 2006 (เป็นศึกของ ECW) แต่คู่  MNM ก็พ่ายแพ้ให้กับคู่พี่น้อง Hardys ไปตามระเบียบ ถัดมาก็เป็น Armageddon 2006  ซี่งในทีแรกทาง Smackdown ประกาศไว้ว่าเป็นแมชต์การป้องกันแชมป์ WWE Tag Team ระหว่าง Paul London กับ Brain Kendrick VS. William Regal กับ Dave Taylor แต่อยู่ๆ Teddy Long ก็นึกสนุกออกมาเปลี่ยนแมชต์การปล้ำเป็น Fatal 4 Way Tag Team Ladder Match ทำให้ต้องเพิ่มไป 2 ทีม ปรากฏว่าทีมที่ 3 ออกมาเป็น MNM และทีมที่ 4 ก็เป็น The Hardys เจ้าแห่งแมชต์ไต่บันได แมชต์เป็นไปอย่างสนุก เร้าใจ  แต่ก็เกิดอุบัติเหตุผิดคิวอย่างจัง เนื่องจากอยู่ๆ Jeff Hardy ก็เกิดคิดสนุกอยากจะคำนวณใช้หลักคานดีด คานงัดที่เพิ่งไปเรียนมาจากกวดวิชามาเมื่อวาน เป็น Jeff ที่กระโดดทิ้งตัวลงมาใส่บันไดกระทั่งดีดเข้าไปเต็มหน้า Mercury แตกยับ (แมชต์นั้น Paul London กับ Brain Kendrick เป็นผู้ชนะป้องกันแชมป์ไว้ได้) ต่อมา Mercury ก็กลับมาในมาดของมนุษย์ใส่หน้ากาก (อันที่จริงคือใส่กันแผลอ่ะนะ) ทั้งคู่ก็แยกกันไปตามทาง Mercury แพ้ Matt ใน Smackdown ทางด้าน Nitro ก็ไปแพ้ Jeff ในแมชต์ Steel Cage ศึก New Year Revolution 2007 พลาดแชมป์ Intercontinental และแล้วความอนาถของทั้งคู่ก็ยังไม่จบลง MNM ก็ไปแพ้ The Hardys อีกครั้งใน Royal Rumble 2007 รวมถึงแมชต์ Royal Rumble เองก็กินแห้วไปอีกเช่นกัน จากนั้น Joey Mercury ก็หมดบุญหมดวาสนา และถูกไล่ออกจาก WWE ในเดือนมีนาคม ปี 2007


Johnny Nitro with Kenny Drkstra
          ในช่วงนี้ Melina ได้ผวนตัวไปปล้ำเดี่ยวอย่างเต็มตัวแล้วโดยเธอประสบความสำเร็จถึงกับได้แชมป์ WWE Women’s ด้วยการเอาชนะ Mickie James ทางด้าน Nitro ก็หันมาจับคู่กับ Kenny Dykstra (เคยเป็นสมาชิกในแก๊งค์ Spirit Squard) โดยที่ทั้งคู่ไม่มีบทบาทอะไรที่น่าสนใจเลย จะว่าเป็นช่วงตกต่ำเลยก็ได้ แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็ได้แยกจากกันด้าน Nitro ถูก Draft ไป ECW ส่วน Kenny ไปดับอนาถอยู่ที่ Smackdown

Drafted To ECW - Become ECW Champion
          สืบเนื่องจากการ Draft ของ Nitro มา ECW นั้น เขาก็ได้ขึ้นแมชต์หาแชมป์ ECW ในศึก Vengeance : Night Of Champions 2007 โดยเป็นมวยแทนของ Chris Benoit ที่มีปัญหามาไม่ได้ (R.I.P Chris Benoit) โดย Nitro ปล้ำเจอกับ CM Punk และกลับเป็น Nitro ที่คว้าแชมป์ ECW สมัยแรกไปตรงได้สำเร็จ จากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อมาเขาก็เปลี่ยนชื่อเป็น “John Morrison” ที่พวกเรารู้จักกันดี และเขาก็เอาชนะ CM Punk ในรีแมชต์ได้อีกถึง 2 ครั้ง ทั้งใน The Great American Bash 2007 และ Summerslam 2007 ทำให้ CM Punk ขอใช้ Spirit ท้าชิงแชมป์ ECW เป็นโอกาสสุดท้ายจาก Morrison และ Morrison ก็พลาดท่าเสียแชมป์ ECW ให้กับ CM Punk ไปจนได้ในศึก ECW วันที่ 4 กันยายน 2007 (อันที่จริงบวกกับการที่ตอนนั้น WWE แบนด์ Johnny Nitro ด้วยปัญหาทางด้านยาต่างๆ)


John Morrison With The Miz - Become Forth WWE Tag Team Ch
ampion
          จากนั้นเมื่อ John Morrison พ้นโทษแบนด์กลับมา เขาก็ไปในสาย Tag Team อีกครั้งโดยมีคู่ Tag Team อย่าง The Miz และทั้งคู่ก็คว้าแชมป์ WWE Tag Team ด้วยการเอาชนะ Matt Hardy และ MVP ใน Smackdown วันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2007 และในศึก Survivor Series 2007 CM Punk ก็โคจรมาเจอกับ Morrison อีกครั้ง แต่เป็นการปล้ำป้องกันแชมป์ ECW ในแมชต์ 3 เส้าระหว่าง CM Punk, John Morrison และ The Miz ซึ่งชัยชนะตกเป็นของ CM Punk แต่อย่างไรก็ตามความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็เริ่มแน่นแฟ้นขึ้น จนมีรายการ “The Dirt Sheet” เป็นรายการฮาอย่างเดียวเลย ข้ามมาจนถึง The Great American Bash 2008 ทั้งคู่ก็เสียเข็มขัด WWE Tag Team ให้กับ Curt Hawkins & Zack Ryder ในแมชต์ Tag Team Fatal 4 Way แต่ทีมของ Morrison & Miz ก็ไม่ได้โดนกดแต่อย่างไร แต่คนที่โดนกดคือ Jesse นั่นเอง (สมัยตอนนั้นจับคู่กับ Festus หรือก็คือ Luke Gallows ในปัจจุบันนี้เอง ซึ่งตอนนี้ก็ถูกไล่ออกไปทั้งคู่แล้ว)


The Tag Team of The Year 2008
          ถึงจะไร้ซึ่งเข็มขัดแต่ทั้งคู่ก็ยังเดินหน้าด้วยกันต่อไป หลังจากที่เสียเข็มขัด WWE Tag Team ไปทั้งคู่ไปเปิดศึกกับ Cryme Tyme (Shad (โดนไล่ออกจาก WWE แล้ว) & JTG) ทั้งสองทีมปะทะกันใน Cyber Sunday 2008 แต่ Morrison & Miz ก็ยังคงความแรงชนะ Cryme Tyme ไป และใน Raw วันที่ 8 ธันวาคม ปี 2008 Morrison & Miz ก็ได้รางวัล Slammy Award ในสาขา “Tag Team of the Year 2008” หรือก็คือคู่แทคทีมแห่งปีประจำปี 2008 นั่นเอง


Become First World Tag Team Champion with The Miz
          และทั้งคู่ไม่ได้ทำให้เสียชื่อแทคทีมแห่งปีเลย Morrison & Miz สามารถคว้าแชมป์กลับมาได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นทางด้านของ World Tag Team Champion ด้วยการเอาชนะ CM Punk กับ Kofi Kingston ใน Live Event (ไม่ได้ออกทีวี) จากนั้น Morrison & Miz ก็เปิดศึกกับทาง Carlito & Primo ซึ่งในขณะนั้นเป็นแชมป์ WWE Tag Team และกลายเป็นหนึ่งแมชต์ประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นเพราะทั้งสองทีมเจอกันใน Wrestlemania 25 ในการรวมแชมป์ Tag Team ทั้งสองเส้นเป็น WWE Unifiled Tag Team Champion ดังที่เราเห็นในปัจจุบัน โดยครั้งนั้น Carlito & Primo เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ Unifiled Tag Team คู่แรก


The Miz Drafted To Raw - The End Of “Morrison & Miz”
          การ Draft นักมวยปล้ำประจำปี 2009 ใน Raw วันที่ 13 เมษายน ปี 2009 ส่งผลทำให้The Miz ถูก Draft ย้ายไป Raw เป็นอันทีม Morrison & Miz ก็แยกกันคนละทางในที่สุด โดยที่เป็นฝ่าย Miz ที่หักหลัง Morrison และแถมด้วย Reality Check


John Morrison To SmackDown – Turn Face
          ในขณะที่การ Draft รอบสอง John Morrison ก็ย้ายไป SmackDown เช่นกัน และแมชต์แรกใน SmackDown ของเขาก็คือ SmackDown วันที่ 17 เมษายน ปี 2009 ด้วยการเอาชนะ R-Truth จากนั้น SmackDown วันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2009 เขาก็ชนะ Shelton Benjamin จากนั้น Morrison หันไปเปิดศึกกับทางด้าน Chris Jericho อยู่พักหนึ่งจน Morrison Turn Face ในที่สุด และใน Judgment Day 2009 เขาก็ได้ปล้ำกับ Shelton Benjamin อีกครั้ง ซึ่งฟอร์ม Morrison ที่กำลังขึ้นแบบนี้กับ Benjamin ซึ่งฟอร์มตกแบบนี้ก็เดาได้แบบไม่ต้องดู โดย Morrison ชนะไป แล้วเวลาทองของ Morrison ก็มาถึงเพราะ เขาได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์ World Heavyweight เป็นครั้งแรกกับ Jeff Hardy แต่ Morrison ก็ยังคงแพ้ให้กับ Jeff Hardy ด้วยท่า Swanton Bomb


Become Third Intercontinental Champion
          ศึก SmackDown วันที่ 4 กันยายน ปี 2009 John Morrison คว้าแชมป์ Intercontinental เป็นสมัยที่ 3 ด้วยการเอาชนะ Rey Mysterio ด้วยท่า Starship Pain แต่ต่อมา Morrison ก็แพ้และเสียแชมป์ให้กับ Drew McIntyre ดาวรุ่งพุ่งแรง ในศึก TLC 2009 ส่งท้ายปีด้วยการเสียเข็มขัดแชมป์ Intercontinental


Teaming With R-Truth – To Be A #1 Contender for The Unifiled Tag Team Champion
          จากนั้น Morrison เลยจับคู่แทคทีมอีกครั้ง โดยครั้งนี้คู่กับ R-Truth นั่นเอง เขาทั้งสองได้ผ่านรอบคัดเลือกและได้เข้าร่วม Elimination Chamber Match เพื่อตำแหน่งแชมป์ World Heavyweight ในศึก Elimination Chamber 2010 แต่ทั้งคู่ก็ยังทำไม่สำเร็จ (R-Truth ออกคนแรกด้วยท่า GTS จาก CM Punk, John Morrison ออกคนที่ 4 ด้วยท่า Tombstone จาก Undertaker, สุดท้าย Chris Jericho เป็นผู้ชนะและได้แชมป์กลับไป) แต่แล้วทั้งคู่ก็ยังไม่ย่อท้อขอไปสาย Tag Team และพวกเขาสามารถเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการเข้าไปชิงแชมป์ Unifiled Tag Team ใน Wrestlemania 26 กับ ShoMiz (Big Show & The Miz) แต่ทั้งคู่ก็แห้วแพ้ไป (แพ้ด้วยหมัดเทพเจ้าดาวเหนือของ Big Show ในขณะ Morrison กำลังจะใช้ Flying Chuck Kick)


John Morrison Back To Raw – Pro NXT Season 2
          ศึก Raw วันที่ 26 เมษายน 2010 Draft ประจำปี 2010 Morrison ก็ได้ย้ายกลับมา Raw อีกครั้ง โดยมามาพร้อมกับ R-Truth ด้วย (แต่ก็ไม่ได้แทคทีมกันต่อ) ในตอนนั้นบทของ Morrison ไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่นเต้น น่าสนใจ และพิเศษเท่าไร และเขายังได้เป็น Pro NXT Season 2 ให้กับ Eli Cottonwood ด้วย  (Eli Cottonwood ตกรอบเมื่อ NXT วันที่ 27 มิถุนายน 2010)


Summerslam 2010 – Hell In A Cell 2010
          ต่อมา John Morrison ได้เข้าร่วมทีม 7-7 Elimination Tag Team Match ใน Summerslam 2010 ปะทะกับ Nexus ซึ่งทีมเขาชนะ (แต่คนทำทีมชนะคือ John Cena) แล้วต่อมาเขาก็ยังได้ชิงแชมป์ United States ในศึก Hell In A Cell 2010 ภายใต้กติกา Submission Count Anywhere Match ระหว่าง Daniel Bryan, John Morrison, The Miz ซึ่งในตอนสุดท้าย Morrison จับ Miz ใส่ Coverleaf ได้สำเร็จแต่ถูก Alex Riley ลิ่วล้อ The Miz ก็มาขัดขวางไว้ สุดท้าย Miz เลยโดน LaBell Lock จาก Daniel Bryan ยอมแพ้ป้องกันแชมป์สำเร็จไป


VS. Sheamus – King Of The Ring Tournament 2010 - #1 Contender for WWE Champion
          ต่อมา Morrison เปิดศึกกับ Sheamus และเอาชนะ Sheamus ใน Survivor Series 2010 เริ่มคืนฟอร์มกลับมาได้บ้าง และเขายังได้เข้าร่วม King Of The Ring 2010 โดยที่ Morrison เอาชนะ Tyson Kidd, Cody Rhodes, Alberto Del Rio จนมาถึงรอบสุดท้ายตามลำดับ แต่สุดท้ายก็แพ้ Sheamus ในรอบชิงชวดตำแหน่ง King Of The Ring ไป และต่อมาใน TLC 2010 มีแมชต์การปล้ำ Ladder เพื่อไปเอาสัญญาหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE ระหว่าง Morrison กับ Sheamus และเป็น Morrison ที่โชว์ฟอร์มขั้นเทพเอาชนะ Sheamus เป็นผู้ท้าชิงในที่สุด โดย Morrison ได้รับสิทธิ์ชิงแชมป์ WWE กับ The Miz ใน RAW วันที่ 3 มกราคม ปี 2011 ในแมชต์ Falls Count Anywhere แต่ Morrison ก็ยังคงพลาดแชมป์ และต่อมา Morrison ก็ได้เข้าร่วม Elimination Chamber Match ในศึก Elimination Chamber 2011 เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE ใน Wrestlemania 27 ผู้เข้าร่วม ได้แก่ John Morrison, CM Punk, John Cena, R-Truth, Randy Orton, Sheamus แต่เป็น John Cena ที่เอาชนะ (John Morrison ออกด้วยการโดนท่า GTS จาก CM Punk ออกเป็นคนที่ 4) โดยทาง Morrison ได้เข้าร่วมแมชต์ 6 Mixed Tag Team Match ระหว่าง John Morrison & Trish Stratus & Snooki กับ Dolph Ziggler & Michelle McCool & Layla และเป็นฝั่ง Morrison ที่เอาชนะไปได้


VS. R-Truth - Injury  
          Morrison ได้เข้าร่วม Five Man Gauntlet Match เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE กับ The Miz ใน Extreme Rules 2011 โดย Morrison ตกรอบด้วยการแพ้ R-Truth และ Truth อยู่ถึงรอบสุดท้ายกับ Cena แต่ The Miz มาขัดขวางทำให้ Double Disqualification จึงประกาศเป็นแมชต์ Steel Cage 3 เส้าแทนขึ้น ระหว่าง John Cena, The Miz, R-Truth ทว่า John Morrison ออกมาท้า R-Truth โดยเอาสิทธิ์การเช้าชิงแชมป์เป็นเดิมพันใน Raw สัปดาห์ถัดมา และเป็น Morrison ที่เอาชนะ R-Truth และคว้าสิทธิ์ไปได้สำเร็จ ทำให้ R-Truth โกรธอย่างมาก และเล่นงาน Morrison หลังจบแมชต์ Turn Heel อย่างโหด และในแมชต์ Steel Cage 3 เส้า R-Truth ก็ได้เข้ามาขัดขวาง Morrison จนทำให้ไม่สามารถเอาชนะได้ และใน Raw คืนต่อมาหลัง Extreme Rules 2011 R-Truth ออกมาจัดการเล่นงาน Morrison อย่างหนัก จนทำให้ Morrison มีอาการบาดเจ็บที่คอ (ในบทเพื่อให้ไปรักษาอาการบาดเจ็บอย่างสมจริง)


Return
         
Morrison หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่คอใน Raw วันที่ 13 กรกฏาคม ปี 2011 แต่ R-Truth ก็ไปเล่นงาน Morrison จนเจ็บซ้ำอีก ต่อมา Morrison กลับมาอีกครั้งใน Raw วันที่ 25 กรกฏาคม ปี 2011 โดยกลับมาเล่นงาน R-Truth คืนได้สำเร็จ ใน Summerslam 2011 Morrison ได้ร่วมทีมกับ Rey Mysterio และ Kofi Kingston เจอกับทางด้าน Alberto Del Rio, R-Truth, The Miz ในแมชต์ 6 Man Tag Team และเป็นฝั่ง Morrison ที่เอาชนะไปได้ คืนถัดมาใน RAW John Morrison ได้โอกาสล้างแค้น R-Truth ในแมชต์ Falls Count Anywhere โดยเป็น Morrison ที่เอาชนะไปได้สำเร็จ



Losing Streak
          ต่อมา Morrison มีโอกาสได้เข้าร่วมชิงแชมป์ United States ใน Fatal 4 Way ศึก Night Of Champions 2011 เจอกับ Dolph Ziggler (c), Alex Riley, Jack Swagger แต่เป็น Ziggler ป้องกันแชมป์ไปได้ด้วยการกดตัว Morrison เอง ถัดมาใน Hell In A Cell 2011 Morrison ก็ได้รับโอกาสชิงแชมป์ Intercontinental กับ Cody Rhodes อย่างส้มหล่นในขณะที่ Rhodes กำลังโม้แตก ทว่า Morrison กลับแพ้ไม่เป็นท่าแม้ว่า Rhodes จะใส่ชุดสูทปล้ำ ต่อจากนั้นมา Morrison ก็มีสถิติแพ้อย่างสวยงาม เรียกได้ว่าแพ้ไม่เป็นเท่าทุกแมชต์โดนยำทั้ง Mark Henry, Wade Barrett, Christian, Alberto Del Rio, etc. และกระทั่ง Drew McIntyre ในศึก WWE Superstars


Last Change Last Match
         
ในศึก RAW วันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 2011 John Morrison ได้รับชัยชนะครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือนด้วยการจับแชมป์ United States อย่าง Dolph Ziggler กดได้สำเร็จ ต่อมา Morrison จึงได้โอกาสชิงแชมป์ United States กับ Dolph Ziggler ในศึก Survivor Series 2011 แต่ Morrison ก็ยังคงแพ้ชวดโอกาสไปอีกครั้ง กระทั่งใน RAW วันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2011 ก็เป็นวาระสุดท้ายของ Morrison ซึ่งจะต้องมีแมชต์เจอกับอดีตเพื่อนรักอย่าง The Miz ในแมชต์ Falls Count Anywhere โดย Miz ออกมาลอบทำร้ายเล่นงานขา Morrison ขณะเปิดตัว แต่ Morrison ก็ขอใช้สปิริตเต็มร้อยกลับขึ้นไปปล้ำกับ Miz จนได้ แต่ผลที่ออกมา Morrison โดน Miz เหวี่ยงเข้าใส่ฉากตัว W และ Skull Crushing Finale จน Morrison แพ้ KO และโดนหามส่งโรงพยาบาล ปิดฉากอาชีพนักมวยปล้ำใน WWE ไปในที่สุด ...  


สรุปผลงานแชมป์ใน WWE
- ECW Champion 1 สมัย
ชนะ CM Punk ในศึก Vengeance : Night Of Champions 2007

- Intercontinental Champion 3 สมัย
สมัยที่ 1 ชนะ Carlito และ Shelton Benjamin ใน Triple Threat Match ศึก Vengeance 2006
สมัยที่ 2 ชนะ Jeff Hardy ในศึก Raw วันที่ 16 พฤศจิกายน 2006
สมัยที่ 3 ชนะ Rey Mysterio ในศึก Smackdown วันที่ 4 กันยายน 2009

- WWE Tag Team Champion 4 สมัย
สมัยที่ 1, 2 และ 3 จับคู่กับ Joey Mercury (MNM)
1. ชนะ Eddie Guerrero & Rey Mysterio, 2. ชนะ The Mexicools (Juventud, Psicosis, Super Crazy) , William Regal & Paul Burchill , LOD ในแมชต์ Tag Team 4 เศร้า, 3. ชนะ Batista & Rey Mysterio ตามลำดับ
สมัยที่ 4 จับคู่กับ The Miz ชนะ MVP & Matt Hardy ใน Smackdown วันที่ 16 พฤศจิกายน 2007

- World Tag Team Champion 1 สมัย จับคู่กับ The Miz
ชนะ CM Punk & Kofi Kingston ใน Live Event

รางวัลอื่น ๆ

- Slammy Award สาขา แทคทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 2008 (คู่กับ The Miz)