C-g ► Wrestling

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

Chris Masters : The Masterpiece

ชื่อจริง Christopher Todd Mordetzky
สูง 6 ฟุต 4 นิ้ว (193 เซนติเมตร)
หนัก 263 ปอนด์ (119 กิโลกรัม)
เกิด 8 มกราคม ปี 1983
, Santa Monica, California
Finisher Move Master Lock / Full Nelson
Chris Master’s WWE Debut – Master Lock Challenge
         
Chris Masters เปิดตัวครั้งแรกภายใต้แบรนด์ RAW แมชต์แรกของเขาเจอกับ Stevie Richards ซึ่ง Masters สามารถเอาชนะได้ด้วยท่า Master Lock อีกทั้งระหว่างแมชต์ Masters ยังทำให้ Richards จมูกแตก (ผิดคิว) ด้ายท่า Polish Hammer หรือ ประสานมือทุบนั่นเอง จากนั้น Masters ก็ยังคงฟอร์มร้อนแรง เขาจัด Master Lock Challenge ขึ้น เป็นรายการที่ให้คนมาแก้ท่า Master Lock โดยผู้ที่แก้ท่าได้ เขาจะให้รางวัลเป็นเงินจำนวน $1000 (เพราะ ตอนนั้นไม่มีใครหลุดออกจากท่านี้ได้เลย) ต่อมาในศึก Backlash 2005 Masters เอาชนะ Master Lock Challenge กับ Melissa Coates (ไม่ต้องไปจำชื่อมันหรอก หาค่ารถกลับบ้านครับ) หลังจากนั้นทั้ง Val Venis, Sgt. Slaugter ก็ยังไม่สามารถแก้ท่าล็อคนี้ได้ และต่อมา Masters ก็มั่นใจสุดๆ หลังจากที่เขาเอาชนะ Rosey (400 ปอนด์) ได้ใน RAW วันที่ 18 กรกฏาคม ปี 2005 เขาจึงเพิ่มเงินสำหรับผู้ชนะได้เป็น $20,000 มันไปเลย เขายังได้ประกาศต่อไปอีก “ใหญ่กว่านี้ก็ไม่กลัวนะเว้ย” ทว่าผู้ที่ออกมากลับกลายเป็น Big Show ที่ออกมารับคำท้า Master Lock Challenge แต่ Chris Masters กลับโชว์เกรียน และปฏิเสธคำท้าของ Big Show

VS. Shawn Michaels
         
ถัดมาใน RAW ระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม เขาเริ่มมาเปิดศึกกับทาง Shawn Michaels โดยมีแมชต์ Tag Team ระหว่าง Chris Masters & Carlito VS. Shawn Michaels & Ric Flair และเป็นฝั่งของ Masters ที่สามารถเอาชนะด้วยการทำ Ric Flair Submission ได้ ! ทางด้าน Chris Masters กับ Carlito จึงเริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนเดียวกันขึ้นเรื่อยๆ (ตอนนั้นทั้ง 2 คนนี้เป็นดาวรุ่งที่มาแรงมาก) ต่อมาใน RAW วันที่ 5 กันยายน ปี 2005 Shawn Michaels ได้ท้า Master Lock Challenge ซึ่ง Masters ล็อค แต่พอ Shawn จะแก้ล็อคได้ พี่แกเกิดหมั่นไส้ Shawn ขึ้นมา เพราะ มันทนจริงๆ เลยผลัก Shawn ทิ้งไป และจัดการเอาเก้าอี้ตีเข้าให้ แล้ว Lock ใหม่จนชนะ (ไม่ค่อยโกงเลย 555) ทั้งคู่จึงไปสะสางกันในศึก Unforgiven 2005 แต่ก็เป็น Shawn ที่เอาชนะ Masters ไปได้


Master Lock Break ! – WWE Championship Matches           ต่อมาเริ่มเกิดเรื่องราวการปะทะระหว่างค่าย Smackdown และ RAW Masters เองก็เป็น 1 ใน 5 ของทีม RAW ในศึก Survivor Series 2005 ซึ่งในระหว่างแมชต์การปล้ำ 5 ต่อ 5 ตามประเพณีของ Survivor Series Bobby Lashly จากฝั่ง Smackdown สามารถแก้ท่า Master Lock ออกได้เป็นคนแรก ! และสุดท้ายก็เป็นทีม Smackdown ชนะไปได้ที่สุด แต่อย่างไรก็ตามต่อมา Chris Masters ก็ได้ถูกผลักดันอย่างรุนแรง เขาได้ขึ้นชิงแชมป์ WWE ครั้งแรกใน RAW วันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2005 ในแมชต์สามเส้าระหว่าง Masters, Cena (c), Kurt Angle โดยในตอนนั้นทั้ง Masters กับ Angle ต่างก็มีท่า Submission ในขณะที่ตอนนั้น Cena ยังไม่มี และเป็น Masters ที่เกือบจะเอาชนะ Cena ได้ เพราะเขาสามารถใช้ท่า Master Lock จนกระทั่ง Cena หลับได้ (แต่โดนขัดขวางโดย Kurt ซะก่อน) ก่อนที่สุดท้าย Cena จะเปิดตัวท่าไม้ตาย Submission ใหม่อย่าง STF/STFU ! ใส่ Masters และยอมแพ้ไปในที่สุด ต่อมาก่อนที่จะถึงศึกใหญ่ประจำเดือนมกราคม ปี 2006 ต้อนรับปีใหม่อย่าง New Year’s Revolution 2006 นั้น ได้ประกาศไว้ว่า Cena จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับชายอีก 5 คน ภายใต้กรงโหดอย่าง Elimination Chamber ทางด้าน Masters เองก็ได้เข้าร่วมด้วยการเอาชนะรอบคัดเลือกกับ Viscera ในศึก RAW วันที่ 12 ธันวาคม ปี 2005 ผู้เข้าร่วมแมชต์ทั้งหมดได้แก่ World Tag Team Champion Kane, Carlito, Chris Masters, WWE Champion John Cena, Kurt Angle, Shawn Michaels โดย 3 สุดท้ายที่เหลือรอดคือ Cena, Masters, Carlito แต่น่าเสียดายเพราะ ทั้งๆ ที่ Masters กับ Carlito นั้นได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดในการที่จะกำจัด Cena ออกไปก่อน แล้วค่อยมาเล่นต่อทีหลัง ทว่าเป็น Carlito ที่หักหลัง Masters ในขณะที่ใช้ Master Lock ใส่ Cena ด้วยการล้วงที่จุดอ่อนของ Masters เลยแพ้ Cena ชวดแชมป์ไปทั้งคู่ (แต่สุดท้าย Edge ก็มาใช้สิทธิ์ Money In The Bank กับ Cena และ Edge ก็เป็นแชมป์โลกสมัยแรก) ถัดมาในศึก RAW วันที่ 9 มกราคม ปี 2006 หลัง New Year’s Revolution 2006 Masters ไปโวยวายใส่ Carlito ฐานที่หักหลังตัวเขาในคืนที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่กลับถูกสั่งให้ปล้ำ Tag Team เจอกับ Kurt Angle กับ Shawn Michaels แต่ในแมชต์ด้วยความที่ Shawn กับ Kurt ไม่ถูกกันเท่าไรในตอนนั้น Shawn เลยเดินกลับไปดื้อๆ ซะยังนั้น ทำให้ Masters ฉวยโอกาส Master Lock ใส่ Kurt จนได้รับชัยชนะ ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกันต่อไปได้ สัปดาห์ต่อมา Masters ไม่รู้คิดยังไงไปท้า Cena มา Master Lock Challenge มันซะเลย แต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำมาก เพราะเป็น Edge ที่จู่ๆ ก็ขึ้นมารอบทำร้าย Cena

Wrestlemania 22 !
          ใน Royal Rumble Match 2006 Carlito และ Chris Masters ก็ได้เข้าร่วม และตกลงที่จะร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในวันนั้นจริงหลังจากที่ทั้งคู่จัดการ Viscera ไปได้ Masters ทะลึ่งเบ่งกล้ามโชว์ Carlito เลยหักหลัง Masters ด้วยการเหวี่ยงจากข้างหลัง (อีกแล้ว) ทำให้ Masters ฝันสลายอดไปเป็นคู่เอก Mania … Masters จึงได้จับคู่กับ Carlito อีกครั้งชิงแชมป์ World Tag Team กับ Big Show & Kane ใน Wrestlemania 22 เท่านั้น และก็ยังคงเป็น Big Show & Kane ที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้ ท้ายสุดทั้ง Carlito กับ Chris Masters ก็แตกกันจนได้ในที่สุด แต่กลับเป็นฝ่าย Carlito ที่ Turn Face ในเมื่อมีเรื่องกันก็ต้องรีบขาย ทั้งคู่มีแมชต์ต้องเจอกันใน Backlash 2006 เดือนถัดมา ทว่าเป็น Carlito ที่ชนะ Masters ซะยังงั้น หลังจากนั้นไม่นาน Masters ก็ถูกแบนเนื่องจากถูกตรวจพบว่าใช้ (น่าจะ) สารสเตอร์รอยด์ หรือ ยาโดฟกล้าม อะไรประมาณนี้ซักอย่าง     

Return – Lower-card Match
          หลังจาก Masters กลับมาก็ถูกกดบทบาทในทันที เขาปล้ำโดยเปิดศึกกับ Super Crazy อยู่ช่วงสั้นๆ ช่วงนึง และเป็น Masters ที่แพ้อีกด้วย ส่งผลให้เขาคงวนเวียนอยู่ในลีกแชมป์ Intercontinental เท่านั้น เขาได้เข้าร่วมแมชต์ชิงแชมป์ใน Six-Pack Challenge แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ และชัยชนะแรกหลังจากที่เขากลับมาก็มาซักทีเมื่อเขาเอาชนะ Jerry Lawler ได้ใน RAW วันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2006 โดยสัปดาห์ต่อๆ มา Jerry ก็แพ้ Master Lock Challenge แต่ท้ายที่สุด Jerry ก็เอาชนะ Masters ได้ ถัดมาใน RAW วันที่ 4 ธันวาคม ปี 2006 Masters ได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์ WWE อีกครั้งกับ Cena แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ การแข่งครั้งนี้เดิมพันเข็มขัดด้วยการประลอง Master Lock Challenge แต่กลับกลายเป็น Masters ที่โดน Cena ใส่ Master Lock ซะเอง และยอมแพ้ไปในที่สุด
จากนั้นบทบาทก็ไม่มีอะไรเลย ... ข้ามมาถึงปี 2007 Masters ไปมีเรื่องกับคู่อริเก่าอย่าง Carlito อีกครั้ง ทั้งคู่มีแมชต์เจอกันใน New Year’s Revolution 2007 และ Masters ก็เอาชนะ Carlito ได้สำเร็จ และ Rematch ใน RAW คืนต่อมา Carlito ก็ชนะ Masters เป็นอันจบเรื่องจบราวสั้นๆ ต่อมาใน RAW วันที่ 19 มีนาคม ปี 2007 แชมป์ ECW Bobby Lashly ในตอนนั้นสามารถแก้ท่า Master Lock อีกครั้ง และชนะ Master Lock Challenge ไปจนได้ ต่อมาช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม มิถุนายน ปี 2007 แชมป์ Intercontinental ส้มหล่นในตอนนั้นคือ Santino ... Masters เองขอท้าชิงเข็มขัด Intercontinental แต่ตัวเขากลับแพ้ไป 4 แมชต์รวด โดยเขาเอาชนะ Santino ได้แค่ Master Lock Challenge เท่านั้น

Drafted To Smackdown – Released from WWE
         
สืบเนื่องจากการดราฟต์ตัวนักมวยปล้ำประจำปี 2007 Chris Masters ถูกย้ายมา Smackdown พอเขามาถึงก็มีเรื่องกับ Chuck Palumbo ทันทีทันใด ทั้งคู่มีแมชต์เจอกันหลายครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะ ทว่าต่อมาไม่นาน Chris Masters ก็โดนแบนรอบสอง เพราะไม่ผ่านการตรวจยาของ WWE กระทั่งพ้นโทษแบน และกลับมาใน Smackdown วันที่ 5 ตุลาคม ปี 2007 ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก ทว่า 2 พฤศจิกายน ปี 2007 Masters ถูกตรวจพบว่าใช้สารสเตอร์รอยด์อีกแล้วววว !!! 6 วันต่อมา Chris Masters จึงถูก WWE ไล่ออก !

Return to WWE – Turn Face            
         
Chris Masters กลับมา WWE อีกครั้งภายใต้แบรนด์ RAW ขึ้นปล้ำแมชต์แรกใน RAW วันที่ 27 กรกฏาคม ปี 2009 โดยเจอกับ MVP ผลปรากฏว่าเป็น Double Count Out หลังแมชต์ Masters จัดการ Master Lock ใส่ MVP จนหลับ แต่อย่างไรก็ตามสัปดาห์ต่อมา MVP ก็เอาชนะ Masters คืนกลับไปได้ กระทั่งช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 Chris Masters ก็ Turn Face โดยใน RAW วันที่ 2 พฤศจิกายน ปี 2009 ในคอนเซปต์ “RAW’s Got Talent” Masters มาโชว์ความสามารถในการเด้งนมประกอบกับจังหวะเพลง 555 ถัดมาใน RAW วันที่ 7 ธันวาคม ปี 2009 Masters ได้เล่นบทพระเอกครั้งแรก โดยขึ้นมาช่วยเหลือ Hornwoggle ให้รอดพ้นจากน้ำมือของ Chavo Guerrero (*เพิ่มเติม ถ้าใครยังจำกันได้ช่วงนั้นเรื่องราวระหว่าง Hornwoggle และ Chavo นั้นไร้สาระเอาโล่เชียวนะเออ) ใน RAW วันที่ 27 ธันวาคม ปี 2007 Masters มีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์ US กับ The Miz (c), MVP ใน Triple Threat Match แต่ Masters ก็ยังคงไปไม่ถึงฝันอยู่ดี ต่อมา Masters ก็ไม่มีบทอะไรเท่าไรในช่วงต้นปี 2010 เขาเพียงปล้ำแมชต์ธรรมดาๆ เรื่อยๆ และก็หายไป ...

Drafted Back To Smackdown          
         
Masters กลับมาอีกครั้งในการดราฟต์ตัวนักมวยปล้ำรอบสองประจำปี 2010 Masters ถูกย้ายไป Smackdown อีกครั้ง โดยขึ้นปล้ำแมชต์แรกก็เอาชนะ Chavo Guerrero และเอาชนะ Caylen Croft ใน Master Lock Challenge ได้ หลังจากนั้น Trent Baretta ก็ขึ้นมาช่วยกันรุมเล่นงาน Masters เป็นอันเปิดศึกเล็กๆ กับ Masters สัปดาห์ต่อมาใน Smackdown Chris Masters ร่วมแจมกับ MVP เจอกับ The Dudebusters (Caylen Croft & Trent Baretta) ใน Tag Team Match ต่อมา Masters ลงไปเป็นขาประจำแห่งศึก WWE Superstars แต่ทว่าเขากับต้องมาเป็น Jobber ให้นักมวยปล้ำกระทืบเล่นซะงั้น เขาได้รับสถิติแพ้รวดติดต่อกัน แพ้ Dolph Ziggler, Caylen Croft, Chavo Guerrero, Tyler Reks, Jack Swagger, Drew McIntyre … Masters มาปล้ำ Smackdown อีกครั้งวันที่ 9 กันยายน ปี 2010 โดยจับคู่กับแชมป์ Intercontinental Kofi Kingston ในตอนนั้นเอาชนะคู่ของ Chavo Guerrero และ Dolph Ziggler ไปได้ อีกทั้ง Masters ยังเอาชนะ Vance Archer ใน WWE Superstars อีกด้วย Masters ก็เริ่มกลับมามีบทดีหน่อยๆ กับเขาบ้าง เขาได้เข้าร่วม Traditional Survivor Series Elimination Tag Team Match ในศึก Survivor Series 2010 ร่วมทีมกับ Rey Mysterio (Rey Mysterio captain, Big Show, Kofi Kingston, MVP, Chris Masyers) เอาชนะทีมของ Alberto Del Rio (Alberto Del Rio captain, Tyler Reks, Jack Swagger, Drew McIntyre, “Dashing” Cody Rhodes)


The God of “WWE Superstars”        
         
ปัจจุบันในปี 2011 นั้น Chris Masters ได้กลายเป็นเทพประจำศึก WWE Superstars ไปซะแล้ว เพราะเขาเอาชนะได้ทั้ง Curt Hawkins, Tyler Reks ในทุกแมชต์ที่เจอกัน (ในปี 2011) แต่ก็ยังคงเป็น Jobber ในรายการ Smackdown เสมอๆ และ Masters ยังได้เป็น Pro ให้กับ Byron Saxton ใน NXT Season 4 (ส่วนนี้ขอไม่อธิบายมากละกัน ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยดู NXT อยู่แล้ว)